ทำไมนกฟลามิงโกจึงมีสีชมพู

ฟลามิงโก เป็นหนึ่งในนกที่สวยงามและโด่งดังที่สุดในโลก เพราะมีขนนกสีแดงเลือดหมู จนถึงแดงเข้ม พวกมันมักอาศัยและเจริญเติบโตแถบทะเลสาบน้ำตื้น ป่าโกงกาง และปากแม่น้ำที่เชื่อมระหว่างน้ำเค็มกับน้ำจืด แถบแอฟริกา เอเชีย อเมริกา และยุโรป นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมในฐานะหนึ่งในนกที่มีสีสันมากที่สุดเนื่องจากมีขนสีชมพูที่สวยงาม มาถึงตอนนี้ คุณคงคิดว่าทำไมนกฟลามิงโกจึงมีสีชมพู เราจะอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้เกี่ยวกับข้อเท็จจริงบางประการของชนิดนี้กัน

นกฟลามิงโก ที่โตเต็มวัยสามารถโตได้สูงประมาณ 80-145 ซม. น้ำหนักตัวประมาณ 2-3 กก. คอและขายาว คุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์  คือ ชอบที่จะหากินอยู่ตามแหล่งน้ำเค็มหรือน้ำกร่อย เวลากินอาหารมันจะจุ่มปากของมันลงในน้ำ และพ่นน้ำหรือดินโคลนออกตามรูที่อยู่บนปากจะงอย มีนิสัยชอบยืนขาเดียวอีกด้วย บางครั้งก็นานกว่า 4 ชั่วโมง และในระหว่างการอพยพพวกมันสามารถเดินทางได้มากกว่า 300 ไมล์เพื่อไปถึงที่อยู่อาศัยใหม่ด้วยความเร็วเฉลี่ย 37 ไมล์ต่อชั่วโมง หนึ่งในสัตว์สีชมพูที่สวยงามนี้ใช้เวลาในการทำความสะอาดขนประมาณ 20% เพราะมีต่อมพิเศษที่ผลิตน้ำมันและมันจะแพร่กระจายไปทั่วขนที่ถูกกระตุ้นโดยจงอยปาก

นกฟลามิงโกส่วนใหญ่อยู่รวมกันเป็นฝูงขนาดใหญ่  พบนกฟลามิงโกได้มากที่สุดในโลก คือ ทะเลสาบนากูรู ในอุทยานแห่งชาติทะเลสาบนากูรู ทางตอนเหนือของประเทศเคนยา ซึ่งมีจำนวนประชากรนกฟลามิงโกมากได้ถึง 1,500,000 ตัว การผสมพันธุ์มันจะเลือกคู่เพียงผัวเดียวเมียเดียว สามารถผลิตไข่ได้ปีละครั้ง ทั้งตัวผู้และตัวเมียผลัดกันกกไข่ก่อนฟักออกมา และหลังจากนั้นไม่กี่วันทั้งคู่พ่อแม่ก็เริ่มให้อาหารลูกไก่ด้วยสารคล้ายนมที่อุดมด้วยไขมันและโปรตีน โดยธรรมชาติแล้วลูกอ่อนฟลามิงโก จงอยปากจะไม่มีลักษณะโค้ง แต่เมื่อโตขึ้นจึงจะกลายเป็นโค้งตามพ่อแม่ นกชนิดนี้ยังคงอยู่เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างคือเมื่อพวกมันต้องการพักผ่อนจะยืนด้วยขาเดียวอยู่นิ่ง ๆ แช่น้ำได้เป็นเวลานานมากถึง 4 ชั่วโมง พวกมันมีอายุเฉลี่ย 20 และ 30 ปีในป่า

เล่ามาซะยาว ตอนนี้มาคุยกันว่าทำไมฟลามิงโกถึงมีสีชมพู คำตอบคือเดิมทีพวกมันไม่ได้มีสีชมพู แต่มีขนสีเทา ต่อมากลายเป็นสีชมพูเพราะได้รับการย้อมสีชมพูจากธรรมชาติที่เรียกว่า แคนตาแซนทิน (canthaxanthin) ที่พวกมันได้รับจากการกินกุ้งทะเล และสาหร่ายสีน้ำเงินแกมเขียว แต่ส่วนมากแล้ว นกที่เลี้ยงตามสวนสัตว์ขนจะเปลี่ยนเป็นสีขาวเพราะขาดสารอาหารเหล่านี้  แต่ผู้ดูแลสามารถเพิ่มแคนตาแซนธินสังเคราะห์ในอาหารให้กับนกสวยงามสายพันธุ์นี้ทดแทนกันได้ เช่น กุ้ง สาหร่าย ตะไคร่น้ำ และสายพันธุ์อื่น ๆ ที่มีอยู่ในป่า

ที่มา : earthnworld

ภาพ : pixabay.com